ส่วนนี้คือไฟล์แบบ HTML ของ http://audit.anamai.moph.go.th/21June48/anamai/project1.ppt G o o g l e สร้างไฟล์ดังกล่าวขึ้นโดยอัตโนมัติ ในขณะที่เราไต่เว็บเพื่อเก็บลงดัชนี.ถ้าต้องการลิงค์มาหา หรือบุ๊กมาร์กหน้านี้, โปรดใช้ url ดังต่อไปนี้: http://www.google.com/search?q=cache:wONplmrHmk4J:audit.anamai.moph.go.th/21June48/anamai/project1.ppt+PVIF&hl=th&ct=clnk&cd=10&gl=th
Google ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ที่สร้างเว็บนี้ และไม่มีส่วนรับผิดชอบกับเนื้อหาภายในเว็บ
ผลการค้นหาถูกเน้นด้วยสี:
pvif
การประเมินความคุ้มค่าของโครงการ
รองศาสตราจารย์ อัจฉรา ชีวะตระกูลกิจ
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
ความสำคัญของการประเมินความคุ้มค่าของโครงการ
การลงทุนต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก
ผลของการตัดสินใจผูกพันต่อการดำเนินงานเป็นเวลานาน
หลายปี
การตัดสินใจลงทุนอาจมีผลต่อความสำเร็จหรือล้มเหลวของกิจการ
หลักการประเมินความคุ้มค่าของโครงการ
ผลตอบแทน(BENEFIT)
ที่มีตัวตน
ที่ไม่มีตัวตน
ค่าใช้จ่าย(COST)
ที่มีตัวตน
ที่ไม่มีตัวตน
ขั้นตอนการพิจารณาตัดสินในลงทุนในโครงการ
การพิจารณาข้อเสนอของโครงการลงทุน
การประมาณกระแสเงินสดของโครงการลงทุน
การประเมินค่าโครงการลงทุน
การตัดสินใจเลือกโครงการลงทุน
การดำเนินงานตามโครงการลงทุน
การติดตามและประเมินผลโครงการลงทุน
วิธีประเมินความคุ้มค่าของโครงการ
วิธีระยะเวลาคืนทุน(Payback period : PB)
วิธีระยะเวลาคืนทุนแบบคิดลด(Discount Payback period : DPB)
วิธีค่าปัจจุบันสุทธิ(Net Present Value : NPV)
วิธีดัชนีกำไร(Profitability Index : PI)
วิธีอัตราผลตอบแทนจากโครงการ(Internal Rate of Return : IRR)
วิธีอัตราผลตอบแทนจากโครงการแบบปรับค่า(Modified Internal Rate of Return : MIRR)
กระแสเงินสด CF0 CF1 CF2 ………….. CFn
การคำนวณมูลค่าทบต้น (Compounding)
i = อัตราดอกเบี้ยต่องวด
ปัจจุบัน อนาคต
(PV) (FV)
ปลายงวดที่ 0 i% 1 i% 2 ………….. n
ระยะเวลา (n)
(CF)
มูลค่าทบต้น
ในอนาคต
(FV)n หรือ
Terminal Value (TVn)
คณิตศาสตร์การเงิน : ค่าของเงินตามระยะเวลา
กระแสเงินสด CF0 CF1 CF2 ………….. CFn
ปลายงวดที่ 0 i% 1 i% 2 ………….. n
ระยะเวลา (n)
(CF)
การคำนวณมูลค่าปัจจุบัน (Discounting)
ค่าปัจจุบัน
(PVn)
มูลค่าทบต้น ณ ปีที่ 1 = เงินต้น + ดอกเบี้ย 1 ปี
FV1 = PV + INT
FV n = PV (1 + i )n
ตัวอย่าง มูลค่าทบต้นของเงิน 100 บาท เมื่อสิ้นปีที่ 1 มีค่าเท่าไร ถ้าอัตราดอกเบี้ยเป็น 10%
FV1 = 100 (1 + 0.10)1
FV1 = 100 + 10 = 110 บาท
มูลค่าปัจจุบัน Present Value
FV n = PV (1 + i ) n
PV = FV n
(1 + i )n
ตัวอย่าง ค่าปัจจุบันของเงิน 110 บาท ที่จะได้รับใน 1 ปีข้างหน้า ถ้าอัตราดอกเบี้ยเป็น 10%
PV = 110 = 100
(1 + 0.10)1
ข้อสังเกตุ
- ระยะเวลาในการรับเงินในอนาคตยิ่งไกลออกไป
ค่าปัจจุบันจะยิ่งมีค่าน้อยลง
- ถ้าอัตราดอกเบี้ยหรืออัตราส่วนลดยิ่งมาก
ปัจจุบันจะยิ่งมีค่าน้อยลง
ตัวอย่าง มีข้อเสนอเกี่ยวกับผลตอบแทนการลงทุนในตราสารประเภทหนึ่ง
ดังต่อไปนี้ ท่านจะซื้อตราสารนี้ในราคาเท่าไร ถ้าต้องการอัตราผลตอบแทน
ขั้นต่ำเท่ากับ 8% ต่อปี
ปี C/F
1 100
2 200
3 300
4 400
5 500
1 2 3 4 5
100 200 300 400 500
1,136.49 บาท
PV = 100
(1.08)1
PV = 200
(1.08)2
PV = 300
(1.08)3
PV = 400 ..
(1.08)4
PV = 500
(1.08)5
วิธีระยะเวลาคืนทุน (Payback period : PB)
กรณีกระแสเงินสดสุทธิเท่ากันทุกปี
ระยะเวลาคืนทุน = กระแสเงินสดจ่ายลงทุน
กระแสเงินสดสุทธิรายปี
ตัวอย่าง โครงการ ก.ใช้เงินลงทุนครั้งแรก 600,000 บาท โดยคาดว่าจะได้รับกระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงานปีละ 80,000 บาท เป็นเวลา 15 ปี จงหาระยะเวลาคืนทุน
PB = 600,000 = 7. 5 ปี
80,000
2. กรณีกระแสเงินสดสุทธิในแต่ละปีไม่เท่ากัน
ตัวอย่าง โครงการ ข.ใช้เงินลงทุนครั้งแรก 100,000 บาท โดยคาดว่าจะได้รับ
กระแสเงินสดสุทธิ (NCF) จากการดำเนินงานในแต่ละปีดังนี้
ปีที่ 0 -100,000 บาท
1 50,000
2 40,000
3 30,000
4 10,000
ดังนั้น PB = 2 + 10,000
30,000
= 2.33 ปี
ข้อดี-ข้อเสียของวีธีระยะเวลาคืนทุน
ข้อดี
1.คำนวณได้ง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน
2.ทำให้ทราบสภาพคล่องของโครงการ
โดยโครงการที่คืนทุนเร็ว ย่อมมีสภาพคล่อง
สูงกว่า
3.เป็นตัววัดความเสี่ยงของโครงการได้ โดย
โครงการที่คืนทุนเร็ว ย่อมมีความเสี่ยงน้อยกว่า
ข้อเสีย
1.ไม่ได้คำนึงถึงกระแสเงินสดภายหลัง
จากการคืนทุนแล้ว
2. ไม่ได้คำนึงถึงค่าของเงินในระยะเวลา
ที่ต่างกันว่ามีค่าไม่เท่ากัน
3.ไม่คำนึงถึงความสี่ยงของกระแสเงินสด
ที่จะได้รับในอนาคต
4.ไม่มีเกณฑ์การตัดสินใจที่บ่งชี้ให้เห็นว่า
การลงทุนนั้น ๆ มีส่วนเพิ่มมูลค่าของ
กิจการอย่าไร
วิธีระยะเวลาคืนทุนแบบคิดลด (Discount Payback period :DPB)
ตัวอย่าง จากโครงการ ข. ถ้าบริษัทมีต้นทุนเงินทุนเท่ากับ 10% สามารถ
คำนวณหาระยะเวลาคืนทุนแบบคิดลด (DPB) ได้ดังนี้
ปีที่ NCF PVIF,10% PVNCF
0 -100,000 1.0000 -100,000
1 50,000 0.9091 45,455
2 40,000 0.8264 33,056
3 30,000 0.7513 22,539
4 10,000 0.6830 6,830
DPB = 2 + 21,489 = 2.95 ปี
22,539
วิธีค่าปัจจุบันสุทธิ (Net Present Value : NPV)
NPV = PVNCF – I
โดยที่
PVNCF = ค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดรับสุทธิ
ตั้งแต่ปีที่ 1 ถึง n ที่คิดลดด้วยอัตรา
ผลตอบแทนขั้นต่ำที่ต้องการ(i%)
I = ค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดจ่ายลงทุน
ตัวอย่าง จากโครงการ ข. ถ้าบริษัทมีอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำที่ต้องการเท่ากับ 10% สามารถคำนวณหาค่าปัจจุบันสุทธิ(NPV)ได้ดังนี้
ปีที่ NCF PVIF,10% PVNCF
1 50,000 0.9091 45,455
2 40,000 0.8264 33,056
3 30,000 0.7513 22,539
4 10,000 0.6830 6,830
ผลรวม PVNCF 107,880
หัก เงินลงทุน (I) 100,000
NPV 7,880
ดังนั้น ควรลงทุนในโครงการนี้ เนื่องจากโครงการนี้ให้ผลตอบแทนมากกว่า
10 % ซึ่งสังเกตได้จาก NPV>0
วิธีดัชนีกำไร(Profitability Index : PI)
PI = PVNCF
I
โดยที่
PVNCF = ค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดรับสุทธิ
ตั้งแต่ปีที่ 1 ถึง n ที่คิดลดด้วยอัตรา
ผลตอบแทนขั้นต่ำที่ต้องการ(i%)
I = ค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดจ่ายลงทุน
ตัวอย่าง จากโครงการ ข. ถ้าบริษัทมีอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำที่ต้องการเท่ากับ 10% สามารถคำนวณหาค่าดัชนีกำไร(PI)ได้ดังนี้
ปีที่ NCF PVIF,10% PVNCF
1 50,000 0.9091 45,455
2 40,000 0.8264 33,056
3 30,000 0.7513 22,539
4 10,000 0.6830 6,830
ผลรวม PVNCF 107,880
หาร เงินลงทุน (I) 100,000
PI = 107,880/100,000 = 1.08
ดังนั้น ควรลงทุนในโครงการนี้ เนื่องจากโครงการนี้ให้ผลตอบแทนมากกว่า
เงินลงทุนคิดเป็น 1.08 เท่า ซึ่งสังเกตได้จาก PI>1
วิธีอัตราผลตอบแทนจากโครงการ (Internal Rate of Return : IRR)
PVNCF = I
โดยที่
PVNCF = ค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดรับสุทธิ
ตั้งแต่ปีที่ 1 ถึง n ที่คิดลดด้วยอัตรา
ผลตอบแทนจากโครงการ(r%)
I = ค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดจ่ายลงทุน
ตัวอย่าง จากโครงการ ข. ถ้าบริษัทมีอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำที่ต้องการเท่ากับ 10% สามารถคำนวณหาอัตราผลตอบแทนจากโครงการ(IRR)ได้ดังนี้
ปีที่ NCF PVIF,14% PVNCF
1 50,000 0.8772 43,860
2 40,000 0.7695 30,780
3 30,000 0.6750 20,250
4 10,000 0.5921 5,921
ผลรวม PVNCF,14% 100,811
ผลรวม PVNCF,15% 99,167
อัตราผลตอบแทนจากโครงการ(IRR) อยู่ระหว่าง 14 – 15 %
ดังนั้น ควรลงทุนในโครงการนี้ เนื่องจากโครงการนี้ให้ผลตอบแทนมากกว่า อัตราผลตอบแทนขั้นต่ำที่ต้องการ(r>i)
วิธีอัตราผลตอบแทนจากโครงการแบบปรับค่า (Modified Internal Rate of Return : MIRR)
ข้อสมมติ:กระแสเงินสดสุทธิที่กิจการได้รับในแต่ละปีสามารถนำไปลงทุน
ต่อโดยได้รับผลตอบแทนในอัตราที่กิจการกำหนด(i%)
PVTV = I
โดยที่
PVTV = ค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดรับสุทธิตั้งแต่ปีที่ 1 ถึง n
ที่ได้คำนวณทบต้นแล้ว และคิดลดด้วยอัตราผลตอบแทน
จากโครงการแบบปรับค่า(MIRR)
I = ค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดจ่ายลงทุน
1 2 3 4
-100,000 50,000 40,000 30,000 10,000
i=10%
i=10%
i=10%
33,000
48,400
66,550
TV = 157,950
MIRR=12.1%
PVTV=100,000
สรุปประเด็นการวิเคราะห์โครงการด้านการเงิน
มุมมองของผู้ประกอบการ(เจ้าของทุน)
เน้นผลกำไรในรูปตัวเงิน(Money Profit)
ค่าใช้จ่ายเป็นตัวเงินที่เกิดขึ้นจริง
การตีค่าโครงการจะใช้ราคาตลาด
รวมภาษีและเงินอุดหนุน
แนวคิดพื้นฐานของการประเมินทางด้านเศรษฐศาสตร์
การจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ได้แก่ ที่ดิน แรงงาน ทุน และทรัพยากรธรรมชาติ ไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับความต้องการหรือวัตถุประสงค์ของส่วนรวมมากที่สุด
การวิเคราะห์โครงการของรัฐจะต้องนิยามผลตอบแทนในลักษณะที่สะท้อนถึงจุดมุ่งหมายของการพัฒนา ได้แก่
การเพิ่มรายได้ของชาติให้สูงขึ้น
การประหยัดค่าใช้จ่ายของชาติลง
โดยวิเคราะห์ออกมาในรูปของผลตอบแทนส่วนเพิ่มและค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่ม
แนวคิดพื้นฐานของการประเมินทางด้านเศรษฐศาสตร์
3. การนิยามค่าใช้จ่ายของโครงการใช้หลักค่าเสียโอกาส(Opportunity Cost) ซึ่งหมายถึงผลตอบแทนที่ดีที่สุดที่สูญเสียไป จากการใช้ทรัพยากรไปในทางอื่น
สรุปประเด็นการวิเคราะห์โครงการด้านเศรษฐศาสตร์
มุมมองของสังคมโดยส่วนรวม
เน้นผลกำไรทางสังคม (Social Profit)
ค่าใช้จ่ายที่ไม่ทราบมูลค่าเป็นตัวเงินต้องใช้วิธีประเมินค่า
เช่น อุบัติเหตุ
การตีค่าโครงการจะใช้ราคาที่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริง เช่น
ราคาเงา ราคาทางบัญชี ราคาตลาด
ประโยชน์จากโครงการต้องประเมินมูลค่าทางเศรษฐศาสตร์เช่นกัน
สรุปความแตกต่าง ของการวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์ และการเงิน
การคิดผลตอบแทน
เศรษฐศาสตร์
คิดทั้งผลตอบแทนที่มีตัวตนและไม่มีตัวตน
ไม่รวมเงินอุดหนุน
การเงิน
คิดเฉพาะผลตอบแทนที่มีตัวตน
รวมเงินอุดหนุนด้วย
สรุปความแตกต่าง ของการวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์ และการเงิน
การคิดค่าใช้จ่าย
เศรษฐศาสตร์
ใช้ค่าใช้จ่ายที่แท้จริงของสังคมจากการมีโครงการ
คิดค่าเสียโอกาสของการใช้แรงงานและทุนของตนเอง
ไม่รวมค่าดอกเบี้ย และค่าภาษี
การเงิน
คิดเฉพาะค่าใช้จ่ายภายในโครงการ ไม่รวมค่าใช้จ่ายทางอ้อมอื่นๆที่ตกแก่สังคม
ไม่คิดในรูปค่าเสียโอกาส
รวมค่าดอกเบี้ย และค่าภาษี
วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2550
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น