วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2550

นิสัยของคนมีหลายแบบ

จากการที่ท่านอาจารย์พุทธทาส ได้กล่าวไว้ว่า"เขามีส่วนเลวบ้าง ช่างหัวเขาจงเลือกเอาส่วนที่ดี เขามีอยู่เป็นประโยชน์กับโลกบ้าง ยังน่าดูส่วนที่ชั่วอย่าไปรู้ ของเขาเลยจะหาคนมีดี โดยส่วนเดียวอย่ามัวเที่ยวค้นหา สหายเอ๋ยเหมือนเที่ยวหาหนวดเต่า ตายเปล่าเอยฝึกให้เคยมองแต่ดี มีคุณจริง"
มองตามกลอนนี้ทำให้นึกถึงตอนร่วมงานกับเพื่อนอีกสองคน วันนี้และหลายๆวันก่อน ผมได้ร่วมงานกับเพื่อนอีกสองคน คือผมรู้สึกว่า มันเข้ากันไม่ค่อยได้ ทั้งทางความคิด และอื่นๆ ก็ไม่รู้หรอกว่า เราหรือเขาที่มีความผิดปกติไป แต่ไม่เป็นไร เริ่มแรกเดิมทีสองคนนั้น เขาไม่รู้จักกันหรอก หากได้แต่ผม ที่เป็นตัวเชื่อมให้เขา ได้มารู้จักกัน ได้มาทำงานร่วมกัน ส่วนตัวผมเองนั้น ก็ได้จัดการติดต่อ ยืมเครื่องมือเครื่องใช้ และอื่นๆให้ แต่พอทำงานร่วมกันไป ผมรู้สึกไม่ค่อยเข้า กับสองคนนั้นสักเท่าไหร่ ทั้งด้านความคิด และอื่นๆ ถ้าถามผมว่านิสัยของเขาแต่ละคนเป็นไง ก็บอกได้แค่ว่าความคิดไปกันไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่(ไม่อยากวิจารณ์ คนอื่น หากแต่ตัวเรายังไม่ดู ไม่ปรับปรุงตัวเอง อย่าริไปปรับปรุงคนอื่น) มีความคิดว่า เราก็ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนะ ทำอะไรก็จริงจัง ทำสำเร็จเป็นอย่างๆไป นะ จากชีวิตที่ผ่านมา แต่อยากดูว่าเขาสองคนนั้น ทำอะไรมาสำเร็จแล้วบ้างอยากดูอยู่เหมือนกันพอตกเย็น กลับเข้าห้อง ก็ลองมาคิดๆดู ว่ามันตรงกับหลักสองหลักใหญ่นี้
1. ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ก็จริงดังว่า ไม่มีใครสมบูรณ์ทุกอย่างหรอก มีดี ก็ต้องมีเสีย มีด้านดีก็มีด้านเสีย ตรงกับ คำกล่าวที่ท่านอาจารย์พุทธทาสได้กล่าวไว้เลย หากเราหวังให้คนอื่นเป็นดังที่เราหวังแล้ว โลกคงจะวุ่นหน้าดู และเราคงจะคบใครไม่ได้ หากแต่ว่าเราต้องปรับปรุงแก้ไขตัวของเราเอง มองตัวของเราเองที่เขาสร้างพระพุทธรูปมองลงต่ำ ก็เพราะว่า ท่านต้องการมองดูตัวเองก่อน ปรับปรุงแก้ไขตนเอง เรื่องคนอื่นอย่าไปเก็บมาทุกข์ ทุกข์ของเขาก็ปล่อยให้เขาทุกข์ เราแค่อาจจะนำมาเป็นบทเรียนสอนตัวเราอย่างเงียบๆว่าจะไม่ทำอย่างนั้น2. โลกธรรม 8 พอดีมีอยู่ครั้งหนึ่ง ดูเหมือนว่า เขาสองคนจะนินทาเรา พูดอะไรว่าเราไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ และไม่อยากร่วมงานในครั้งต่อไปอีก พอทุกข์กระทบ ธรรมก็กระเทือน นี่มันโลกธรรม 8 นี่นา เป็นธรรมดาของโลกที่เราต้องพบเราต้องเจออยู่แล้ว เป็นธรรมดาได้ลาภ เสื่อมลาภ ได้ยศ เสื่อมยศ สรรเสริญ นินทา สุข ทุกข์เป็นธรรมดาของโลกนี่นา เราไม่น่าจะไปยึดติดกับมันเลย แม้แต่ลมหายใจ แม้แต่ตัวของเรา พระพุทธเจ้ายังสอนให้เราไม่ควรยึดติดถือมั่นเลย จะไปยึดติดกับอะไรนอกกายพวกนั้นได้อาศัยหนังสือธรรมะของท่านหลวงพ่อปัญญา ได้นำกลอนของท่านพุทธทาสมาจากหนังสือเล่มนี้ และท่านก็ยังบอกอีกว่า เรื่องของคนอื่นเขา เราอย่าเอาหน้าไปแบกรับเลย อย่าไปวิจารณ์ ตำหนิเขา ว่าไม่ดีอย่างนั้นไม่ดีอย่างนี้ แล้วทำไมเราไม่หันมาวิจารณ์ตัวเอง ดูตัวเอง แก้ไขตัวเอง ปรับปรุงตนให้ดีเล่า

ไม่มีความคิดเห็น: